วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553

อุปนิสัยและลักษณะเฉพาะตัว

อเมริกันพิทบูลและอเมริกันสแตฟฟอร์ดเชียร์นั้นเป็นสุนัขที่ถูกเพาะพันธุ์มาอย่างดี โดยผู้เพาะพันธุ์ที่รู้จริงและมีความรับผิดชอบนั้น มีความจงรักภักดีต่อเจ้าของและต้องการการเอาใจใส่จากเจ้าของสูงมาก เป็นสุนัขที่มีความอดทน และมีความพยายามแบบสู้ไม่ถอยมากที่สุดในโลก เขาเป็นสุนัขที่กล้าหาญ สง่างาม และแข็งแรงที่สุดต่อน้ำหนักตัวที่เท่ากัน

ความสู้ไม่ถอยของอเมริกันพิทบูลเป็นอีกอุปนิสัยหนึ่งที่เกี่ยวกับการอยู่รอดของมันโดยตรง ในการกัดสุนัขสมัยโบราณนั้นสุนัขกัดที่ไม่แสดงความเข้มแข็ง สุนัขที่แสดงอาการยอมแพ้ต่อคู่ต่อสู้และสุนัขที่แสดงอาการหวาดกลัวแม้แต่เล็กน้อย จะถูกยิงทิ้งที่ข้างสังเวียนทันทีโดยไม่มีข้อแม้ สุนัขกัดเหล่านี้ถูกตั้งความหวังไว้ให้สู้จนลมหายใจสุดท้ายถึงแม้จะต้องตายก็ยังจะแสดงอาการไม่ยอมแพ้ ซึ่งสุนัขที่ทำได้ถึงแม้จะแพ้ก็จะได้รับการชื่นชม และมักจะถูกเก็บไว้เป็นพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ต่อไป แม้ว่าจะไม่สามารถต่อสู้ได้อีก จริงอยู่ว่าอุปนิสัยที่สู้ไม่ถอยนั้นได้มาจากการผสมสายพันธุ์เทอร์เรียเข้าไปด้วย แต่ก็ไม่เคยมีสุนัขประเภทเทอร์เรียพันธุ์ใดที่ต้องถูกฆ่าหากใจไม่สู้ ดังนั้นอเมริกันพิทบูล จึงเรียกได้ว่าเป็นสุนัขที่มีใจสู้มากที่สุดในโลกก็ว่าได้

สิ่งที่พิเศษสุดสำหรับอเมริกันพิทบูลและสุนัขประเภทเดียวกัน จะเป็นอะไรไปเสียไม่ได้นอกจากความแข็งแกร่งที่ไม่มีสุนัขพันธุ์อื่นที่มีน้ำหนักตัวเท่ากันเทียบได้ เขามีช่วงขาที่ยาวพอเหมาะเพื่อให้เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว มีคอที่ยาวพอเหมาะกับการกัดคู่ต่อสู้แม้ว่าตนเองจะถูกกัดอยู่ก็ตาม มีกรามที่แข็งแรงโดยที่สามารถกัดได้นานโดยที่ไม่ต้องปล่อยได้นานกว่าใคร จนต้องมีเครื่องมือพิเศษในการช่วยงัดปาก กล้ามเนื้อที่แน่นที่โดนกระแทกจะบาดเจ็บได้น้อย และมีหนังเหนียวและอุปนิสัยที่สู้ไม่ถอยจึงทำให้เขาเป็นสุนัขนักสู้ที่สุนัขพันธุ์อื่นไม่ควรต่อกรด้วยเด็ดขาด ในปัจจุบันการกัดสุนัขถูกห้ามด้วยกฎหมาย เจ้าของเหล่านี้ก็ได้หาเกมการแข่งขันใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อแสดงความแข็งแรงของสุนัข ซึ่งการแข่งขันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่คนเลี้ยงสุนัขประเภทนี้คือ การแข่งลากน้ำหนัก โดยที่สุนัขจะถูกให้ลากของที่มีน้ำหนัก เป็นต้น โดยแบ่งตามน้ำหนักของสุนัข และดูว่าใครสามารถลากน้ำหนักได้มากกว่ากัน

สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ อเมริกันพิทบูล เป็นสุนัขที่มีความดุร้ายกับสุนัขด้วยกันอยู่ในตัวมากสืบเนื่องมาจากการเป็นสุนัขกัดนั่นเอง ปกติเขาจะไม่ใช่สุนัขที่จะหาเรื่องใครก่อน แต่ถ้าใครมาหาเรื่องเขาล่ะก็ อย่าหาว่าเขาไม่เตือนก็แล้วกัน ลักษณะสายพันธุ์ส่วนนี้ น่าเสียดายที่เป็นสิ่งที่เจ้าของไม่สามารถจะแก้ไขได้เลย ถึงแม้ว่าผู้เลี้ยงจะเลี้ยงดูมาอย่างดีก็ตาม ไม่ผูก ไม่ล่าม ไม่ตี และพาเขาออกไปเที่ยวนอกบ้านพบปะเพื่อนหมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ซึ่งเมื่อตอนที่เป็นลูกสุนัขเขาก็จะเล่นกับสุนัขตัวอื่นได้ตามปกติ แต่เมื่อเขามีอายุย่างเข้าสู่วัยหนุ่มเมื่อไหร่ เขาจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปอย่างรวดเร็ว คุณไม่สามารถจะเลี้ยอเมริกันพิทบูลแบบที่คุณเลี้ยงลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์และหวังว่าเค้าจะมีนิสัยแบบลาบราดอร์รีฟเวอร์ได้ คุณอาจทำได้เพียงการเลี้ยงให้เขาเป็นสุนัขที่ไม่หาเรื่องใครก่อนและยอมเล่นกับสุนัขตัวอื่นได้ตราบใดที่เพื่อนเล่นจะไม่ยั่วโมโหเขาก่อน เขาอาจจะอยู่ด้วยกันได้กับสุนัขตัวอื่นในบ้าน แต่ก็เป็นเรื่องที่พบได้ไม่บ่อยนัก ปกติคุณจะพบว่าผู้ที่เลี้ยงอเมริกันพิทบูลหลายตัวจะขังแต่ละตัวไว้แยกต่างหากเพื่อป้องกันการกัดกันที่อาจจะเกิดขึ้นว่า การปล่อยให้อเมริกันพิทบูลกัดกันนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรให้เกิดขึ้นเด็ดขาดพอๆ กับการปล่อยให้เขาเดินเล่นโดยไม่มีเจ้าของคอยคุมหรือไม่มีเครื่องป้องกันการที่เขาจะเผลอไปทำร้ายคนอื่นเพราะความเจ้าอารมณ์และหงุดหงิดง่ายของเขานั่นเอง

สุนัขพันธุ์อื่นๆ อาจกัดกันเพื่อแสดงความเป็นใหญ่และเลิกกัดเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแสดงอาการยอมแพ้ แต่สำหรับอเมริกันพิทบูลนั้นการกัดเป็นการต่อสู้ชนิดหนึ่งที่คู่ต่อสู้อาจไม่มีชีวิตรอด ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้นั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อย่างเช่นการกัดกันของสุนัข สิ่งหนึ่งที่ผู้เลี้ยงอเมริกันพิทบูลมือใหม่ควรรู้นั่นก็คือคุณควรหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะทำให้เจ้าตูบนักสู้ของคุณเกิดฉุนกึกจนได้โอกาสกัดสุนัขตัวอื่นหรือ แม้แต่มนุษย์เป็นครั้งแรก เพราะมันจะทำให้เขาติดเหมือนยาเสพติด เช่นเดียวกับที่สุนัขลากเลื่อนรักการลากเลื่อนเป็นชีวิตจิตใจ และสุนัขต้อนแกะรักการต้อนแกะ อเมริกันพิทบูลก็เป็นนักสู้ที่รักการต่อสู้โดยสายพันธุ์ และเมื่อคุณได้ปลุกจิตสำนึกแห่งการต่อสู้ของเขาขึ้นมาแล้ว คุณก็จะได้สุนัขนักสู้เต็มตัวเลยทีเดียว

จากหนังสือ AMERCAN PITBULL DOG'S STORY

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น